
CASETiFY แบรนด์อุปกรณ์เสริมไลฟ์สไตล์ระดับโลก ประกาศเปิดตัวคอลเล็กชัน FLOWERS BLOOM บทที่ 3 ของการร่วมงานกับ Takashi Murakami ศิลปินร่วมสมัยชื่อดังชาวญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา โดยนำเสนอลวดลายดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของมุราคามิผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรูปแบบ
คอลเล็กชันนี้ถือเป็นการเฉลิมฉลองลวดลาย FLOWERS ในฐานะสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ที่กลายเป็นไอคอนป๊อปคัลเจอร์ปรากฏในวงการแฟชั่น ดนตรี และแอคเซสเซอรี่ต่างๆ ทั่วโลก

CASETiFY เปิดตัวดีไซน์ใหม่สำหรับกระเป๋าเดินทาง เคสโทรศัพท์รุ่น Ripple และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมด้วยไอเท็มสุดลิมิเต็ด อาทิ กรอบล้อมกล้องสีเรนโบว์ที่มาพร้อมตัวอักษรหลากสีสัน เคสโทรศัพท์สีทอง 18K ลายดอกไม้ และกระเป๋าเดินทางลายดอกไม้
เคสโทรศัพท์ FLOWERS RIPPLE จะวางจำหน่ายผ่านการ Blind Box วิธีสนุกที่ให้ผู้บริโภคได้ลุ้นและสะสมดีไซน์ที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะซื้อทีละชิ้นหรือเป็นชุด 4 กล่อง เพื่อเพิ่มโอกาสได้เคสสีเรนโบว์ที่เป็นรุ่นหายาก หรือเคส FLOWERS 18K GOLD รุ่นพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย ตั้งแต่แท่นชาร์จไร้สาย ชาร์ม เคส AirPods ไปจนถึง Dangler ที่อยู่ในรูปแบบ Flowerian ของมุราคามิ โทนสีชมพูจากคอลเล็กชัน KAIKAI และ KIKI ถูกนำกลับมาอีกครั้ง ส่วน Dangler มีให้เลือกถึง 5 สี

ลายดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของมุราคามิ ได้แรงบันดาลใจจากการศึกษาศิลปะ Nihonga (ภาพวาดญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) และตีความจากธีมคลาสสิกอย่าง Setsugetsuka (หิมะ ดวงจันทร์ ดอกไม้) ก่อนจะพัฒนาสู่ผลงาน FLOWERS ที่สะท้อนแนวคิด “Superflat” ของเขา การใช้สีทองยังเป็นการเชิดชูและยกย่องเทคนิคการปิดทองแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่มุราคามิหยิบมาผสานเข้ากับศิลปะร่วมสมัย

ผลิตภัณฑ์ในคอลเล็กชันมีราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท สำหรับ FLOWERIAN DANGLER BLIND BOX ส่วนเคสโทรศัพท์ FLOWERS RIPPLE BLIND BOX อยู่ที่ 3,000 บาท แท่นชาร์จไร้สายเริ่มต้นที่ 3,100 บาท และกระเป๋าเดินทาง Carry-on อยู่ที่ 30,100 บาท (ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย)
สามารถช้อปคอลเล็กชันเต็มรูปแบบได้ที่ casetify.com/co-lab/takashi-murakami และ CASETiFY STUDiO ในประเทศไทย 3 สาขา ได้แก่ Centralworld, Emsphere และ Siam Paragon สำหรับสินค้าพิเศษ สามารถลงทะเบียนรอรับสิทธิ์สั่งซื้อก่อน (waitlist) ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้
คอลเล็กชันนี้ยังจะถูกจัดแสดงใน Pop-up สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ CASETiFY Dosan Flagship พร้อมกิจกรรม Signature Customization Program ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมร่วมออกแบบสินค้าในสไตล์ของตนเอง
ติดตามข้อมูลข่าวสารน่าสนใจได้ทาง www.zanzab.com และช่องทางโซเชียล
Facebook , YouTube , Instagram และ Tiktok






