เอไอเอส เปิดแคมเปญ “เปลี่ยน E-Waste เป็นเน็ตให้น้อง”

เอไอเอส (AIS) เปิดตัวแคมเปญพิเศษเนื่องในเดือนแห่งความรัก ชวนคนไทยร่วมส่งต่อโอกาสทางการศึกษาผ่านโครงการ “เปลี่ยน E-Waste เป็นเน็ตให้น้อง” โดยทุกการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ 1 ชิ้น จะถูกแปลงเป็นอินเทอร์เน็ต 1GB มอบให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ผ่านโครงการ Green Energy Green Network for THAIs เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและสร้างการเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียม

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ AIS เผยว่า องค์กรมุ่งมั่นสู่การเป็น ‘Hub of E-Waste’ หรือศูนย์กลางการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์มาตรฐานสากล โดยแคมเปญนี้นับเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสนับสนุนการเข้าถึงการศึกษาดิจิทัลสำหรับเด็กในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้าน Digital Inclusion ที่มุ่งสร้างโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเท่าเทียม

“เปลี่ยน E-Waste เป็นเน็ตให้น้อง”

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง AIS, GULF และ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) ในการนำร่องมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับ 6 โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ได้แก่ โรงเรียนบ้านหนองบัว สาขาบ้านดอกไม้สด จ.ตาก, ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านมอโก้โพคี จ.ตาก, ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านขุนก๋อง จ.ลำพูน, โรงเรียนบ้านแม่โขง จ.เชียงใหม่, โรงเรียนบ้านแม่โมงเย้า จ.เชียงราย และโรงเรียนบ้านแม่ตอละ จ.แม่ฮ่องสอน

อินเทอร์เน็ตที่ได้รับจากโครงการจะถูกนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนและส่งเสริมการอ่านผ่านแพลตฟอร์มห้องสมุดดิจิทัล AIS ReadDi Digital Library ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมหนังสือและสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการพัฒนาทักษะการอ่านและการเรียนรู้ของนักเรียนในยุคดิจิทัล โดย AIS มีแผนขยายการสนับสนุนไปยังพื้นที่อื่นๆ อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อให้เด็กไทยในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม

สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาร่วมบริจาคได้ที่ AIS Shop ทุกสาขาและองค์กรพันธมิตรกว่า 235 แห่ง รวมทั้งสิ้น 2,700 จุดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ AIS Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ

ติดตามข้อมูลข่าวสารน่าสนใจได้ทาง www.zanzab.com และช่องทางโซเชียล
Facebook , YouTube , Instagram และ Tiktok